ความเชื่อของชาววัดพระธรรมกาย

แก้ไข
ผมเคยดูคลิปวิดิโอคลิปหนึ่ง ที่เป็นของวัดนี้ ในวิดิโอมีเจ้าสัวท่านหนึ่งออกมาพูดกลางที่ชุมนุมลูกศิษย์ซึ่งก็ถือว่าไม่ได้แปลกอะไรแต่พอฟังเนื้อหาการบรรยายแล้วรู้สึกสลดสังเวชเหลือเกิน เพราะเจ้าสัวท่านนั้นกล่าวในทำนองว่า ปีนี้ยอดบริจาคตก การก่อสร้างในวัดก็ต้องชะงัก คนบริจาคสมัยนี้ชอบเม้มตังค์บริจาคเพราะชอบห่วงนั่นห่วงนี่ ห่วงลูกห่วงหลาน ลังเลไม่ทำหมด  เจ้าสัวบอกว่า เงินที่ท่านมีใช้กันอยู่ทุกวันนี้ก็ไม่ใช่ของท่านแต่พระต้นธาตุท่านเบื้องบนเป็นผู้กำหนดมาแล้ว ทุกคนมีผังติดตัวมา เงินของพระต้นธาตุท่านแท้ๆแต่พวกท่านกลับเม้มไว้ส่วนหนึ่งแล้วพูดเปรียบเปรยกับตัวเองว่า สมัยก่อนผมเคยเหลือเงินอยู่หลักล้าน ผมคิดว่าจะเอาเงินส่วนนี้เป็นค่าเทอมของลูกดีหรือว่าจะทำบุญ สุดท้ายก็ตัดสินใจทำบุญด้วยเงินก้อนสุดท้าย น้ำตามันไหลออกมาเพราะมันไม่เหลือเงินแล้ว ไม่มีห่วงแล้ว แล้วท่านนี้ก็เล่าถึงอานิสงค์ที่ตามมามากมายเล่นเอาสาวกสาธุกันรัวๆ เวลาทำบุญเช่น หมื่นหนึ่ง ถ้าไม่มีจะทำแบบผ่อนครั้งละพันไม่ได้ต้องทุ่มเลย เพราะหลวงพี่ที่วัดบอกผม(เจ้าสัว)ว่า อานิสงค์ที่ตามมามันต่างกัน เช่นถ้าผ่อนบุญเวลาอานิสงค์มันส่งให้ได้งาน มันจะพลาดงานนั้นๆก็ได้
และเมื่อไปดูลิงค์วิดิโออื่นๆจากทางวัดก็ส่วนมากจะหาเงินมาทำบุญแบบเกินตัวทั้งสิ้น ลูกศิษย์ท่านนึงบอกว่า ตอนนั้นมันไม่มีเงินก็ต้องหามาให้ได้เป็นหนี้ก็ยอม หรือแม้กระทั่งลูกศิษย์ท่านหนึ่งที่เป็นถึงที่ปรึกษาด้านกฏหมาย แต่กลับนำเงินส่วนมากที่ได้ทำบุญในหลัก M มันก็เป็นสิทธิของเขาแหละครับ แต่ดูสภาพบ้านที่เธออยู่มันคือสลัมดีๆนี่เอง พ่อแม่ต้องทนๆอยู่แบบนี้ เธอเองเป็นผู้หญิงก็ไม่ห่วงเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและครอบครัวเลย ส่วนมากพวกที่ทุ่มๆทำแบบสุดตัวจะพูดในแบบเดียวกันว่าอยากเป็นแบบเจ้าสัวคนนั้นที่ท่านทำบุญได้เยอะ แล้วอานิสงค์มันตามมา  ผมดูเสร็จก็เกิดความสลดสังเวชอย่างที่บอกข้างต้น  ที่กล่าวมาทั้งหมดมีหลักฐานใน  youtube ชัดเจนไม่ได้แอบอ้าง ที่ผมมาตั้งกระทู้นี้เพื่อที่จะบอกว่าความเชื่อของชาวพุทธทั่วไปกับชาววัดนี้บางเรื่องแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่